วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

อนาคตประเทศไทยที่ฉันฝัน

เรียงความที่ฉันเเต่งเอง

อนาคตประเทศไทยที่ฉันฝัน
เหตุผลหนึ่งของความรุ่งเรืองของสหรัฐอเมริกาอาจมาจากความคิดเชิงอุดมคติที่ชาวอเมริกันยึดถือกันเรื่อยมา เรียกกันว่า ความฝันแบบอเมริกัน (American Dream) จากหนังสือสารานุกรมประวัติศาสตร์สากล ภูมิภาคอเมริกา ฉบับราชบัณฑิตยสถาน โดย ศ.กุลวดี มกราภิรมย์ ได้เล่าถึงความฝันแบบอเมริกันที่เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สหรัฐอเมริกามีการพัฒนาและเจริญรุ่งเรืองในด้านต่างๆอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำทั้งในด้นเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของโลก เพราะชาวอเมริกันมีความฝัน ฉันจึงคิดว่าในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ฉันควรที่จะคิด ฉันควรที่จะฝัน เพื่อไทย เพื่ออนาคตประเทศไทยของฉัน
หากทุกคนช่วยกันคิด ช่วยกันฝัน ก็จะเกิดเป็นฝันของชาติ และขับเคลื่อนไปสู่ความเป็นจริงในอนาคต และในความฝันของฉันนั้น ฉันฝันว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศที่สงบสุข คนไทยทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมีความสุข รัฐเข้าไปช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ตลอดจนเปิดโอกาสและสนับสนุนกลุ่มคนรากหญ้า และมีสวัสดิการจากรัฐ คนไทยมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ใช้ชวิตอย่างปกติสุข ไม่มีภัยจากการก่อการร้าย ไม่มีภัยจากโจรผู้ร้าย มีระบบเศรษฐกิจที่แข็งแรงมั่นคง ไม่แปรปรวนไปตามกระแสเศรษฐกิจโลก มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ มีการส่งออกที่ขยายตัว ตลอดจนเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ไม่เกิดปัญหาผู้คนตกงาน คนไทยทุกคนมีอาชีพและรายได้เพียงพอที่จะเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ มีการส่งเสริมเกษตรกรรมและราคาสินค้าเกษตร มีการส่งเสริมด้านการศึกษาแก่ประชาชนชาวไทย มีการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการศึกษา เพื่อสร้างประชากรที่มีคุณภาพ และทักษะความรู้ทัดเทียมบุคคลอื่นในโลก โดยการสร้างสังคมแห่งภูมิปัญญาและสังคมแห่งการเรียนรู้ มีการส่งเสริมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉันฝันว่าประเทศไทยจะมีการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นองประกอบหนึ่งในกรพัฒนาประเทศ มีการนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ เช่น เกษตรกรรม อุตสาหกรรม เป็นต้นตลอดจนส่งเสริมและพัฒนาด้านการวิจัย มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศอย่างยั่งยืน มีการส่งเสริมและอนุรักษ์ธรรมชาติ มีการเมืองที่เข้มแข็งมีระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ประชาชนรู้จักและเรียนรู้ประชาธิปไตยอย่างแท้จิง
ทั้งหมดที่ได้กล่าวมาแล้วนั้นเป็นความคิด ถึงความฝันที่มีต่อประเทศไทย ซึ่งถ้าหากทุกคนช่วยกันคิด ทุกคนช่วยกันฝัน ก็จะกลายเป็นฝันที่ใหญ่ เป็นความปรารถนาของคนในชาติ กลายเป็นความกระตือรือร้น และความมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังของคนในชาติ และจะไม่ใช่เพียงความอีกต่อไป แต่หากจะเป็นความจริงในอนาคตของประเทศไทยของฉัน

อนาคตประเทศไทยที่ฉันฝัน

เรียงความที่ฉันเเต่งเอง

อนาคตประเทศไทยที่ฉันฝัน
“ขวานนี้มีมาก่อนเราเกิด คือสิ่งประเสริฐที่มีบ้านเป็นของตน” (จากเพลงขวานไทยใจหนึ่งเดียว) ที่แสดงถึงผืนแผ่นดินรูปขวานรูปใหญ่นี้ มีผู้คนหลากหลายเผ่าพันธ์อาศัยอยู่ มีการใช้ภาษาที่แตกต่างกันบ้าง มีวัฒนธรรมหลายรูปแบบได้ร่วมอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินนี้อย่างเป็นปกติสุข และกว่าจะมาเป็นผืนแผ่นดินนี้ได้ มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน แลกมาด้วยความเสียสละ แลกมาด้วยเลือดด้วยเนื้อของบรรพบุรษ หลายครั้งที่ต้องเจอกับปัญหา หลายครั้งที่ต้องเจอกับวิกฤติ และมีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้งหลายครา จนทุกวันนี้แผ่นดินนี้ได้รับการยอมรับให้เป็นประเทศหนึ่งบนแผนที่โลกชื่อว่า “ประเทศไทย” ซึ่งเป็นแผ่นดินผืนแรกที่ฉันมีโอกาสได้สัมผัสนับตั้งแต่วันลืมตาดูโลก ฉันรักประเทศไทย มีความฝันที่จะให้ประเทศไทยเป็นอย่างไร มีการพัฒนาประเทศไทยให้มีความเจริญก้าวหน้าไปในทิศทางใด มีความมั่นคงตลอดจนผู้คนที่ได้อาศัยในประเทศไทยนี้มีความเป็นอยู่ที่ดี ในฐานะทีฉันได้ชื่อว่าคนไทย คนหนึ่ง
ฉันรักและภาคภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยได้อาศัยบนผืนแผ่นดินไทย เละมีความฝันที่จะเห็นประเทศไทยของฉันเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองที่เข้มแข็งและมั่งคั่ง ประชาชนชาวไทยได้อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยอย่างมีความสุขสุข โดยแบ่งออกเป็นด้านต่างๆ ดังนี้คือ ด้านความเป็นอยู่ของชาวไทย ฉันอยากเห็นคนไทยทุกคนมีความอยู่ที่ดี ตามอัตภาพ ตลอดจนตลอดจนมีระบบสาธารณูปโภคที่ดี ในด้านเศรษฐกิจฉันอยากจะเห็น ภาวะเศรษฐกิจของไทยที่มีความมั่นคงแข็งแรง สามารถผ่านคลื่นความแปรปรวนของเศรษฐกิจจากภายนอก สามารถแข่งขันเป็นผู้นาและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจด้านต่างๆ ในด้านสารณะสุข ฉันอยากเห็นคนไทยมีสุขภาพที่ดีแข็งแรง และคนไทยทุกคนสามารเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่ดีได้อย่างเท่าเทียมกัน ในด้านปัญหายาเสพติด ผมไม่อยากได้ยิน ไม่อยากได้เห็น ยาบ้า ยาอี ยาม้า และยาเสพติดประเภทต่างๆ บนผืนแผ่นดินไทย เพราะปัญหายาเสพติดนอกจะส่งผลกระทบต่อตัวผู้เสพเองแล้ว ยังเป็นบ่อนทาลายสังคมและความมั่นคงของประเทศไทยด้วย ด้านการศึกษา ในโลกอนาคตจะเป็นสังคมแห่งความรู้ ฉันวาดฝันไว้ว่า สังคมไทยจะเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ตลอดจนมีการส่งเสริมด้านการศึกษา ประเทศไทยจะได้มีบุคลากรที่มีคุณภาพ เพราการศึกษาเป็นรากฐานในการพัฒนาประเทศไทย ในด้านการเมือง ผมอยากเห็นประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงและสมบูรณ์ มีระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ในด้านความมั่นคงของประเทศ ผมอยากให้ทุกส่วนของประเทศไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันตก ตะวันออกตลอดจนภาคใต้ พี่น้องชาวไทยสามารถดาเนินชีวิตอย่างเป็นปกติ มีความปลอดภัยทั้งในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนสร้าง สร้างความสมานฉันท์และสันติสุขให้เกิดในประเทศไทย ในด้าเอกลักษณ์ความเป็นไทยผมฝันไว้ว่าคนไทยจะรักในศิลปะวัฒนธรรมไทย กล้าที่จะใช้และแสดงความเป็นไทยต่อสายตาชาวโลกอย่างภาคภูมิ ไม่อายใคร ยินดีและร่วมเผยแพร่เอกลักษณ์ความเป็นไทยสู่นานาชาติ ในด้านกีฬา ผมวาดฝันไว้ว่าวันหนึ่ง ฟุตบอลไทยจะได้ไปบอลโลกอย่างที่คนไทยหลายคนหวังไว้ ส่วนในด้านวิชาการผมอยากเห็นนักวิชาการสัญชาติไทย ในสาขาต่างๆ ได้มีโอกาสแสดงให้ชาวโลกเห็นว่าคนไทยเรามีศักยภาพ ไม่แพ้ชาติใดในโลก
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วถึงความคิดถึงความคิดถึงความฝันที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็น ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่ปรารถนาจะเห็นประเทศไทยมีการพัฒนา ในด้านต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจสังคมและการเมือง ให้มีการพัฒนา เป็นประเทศที่มั่นคงแข็งแรงทัดเทียมนานาอารยประเทศ ฉันคนเดียวคงไม่สามารทาได้ แต่หากจะเป็นจริงได้ก็ด้วยความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทุกคน โดยอาจจะเริ่มต้นแค่ทุกคนคิด ทุกคนฝัน ฝันที่จะให้ประเทศไทยเป็นอย่างไร เพื่อไทย เพื่ออนาคตของประเทศไทย

วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

เรียงความที่ส่งเข้าร่วมประกวด

พลังเยาวชน ร่วมรณรงค์ลดบุหรี่
การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตที่สามารถป้องกันได้ บุหรี่เพิ่มโอกาสในการเป็นโรคมะเร็งปอดประมาณ 80-90% ของผู้ป่วยมะเร็งปอดมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ นอกจากนั้นยังเป็นสาเหตุของโรคปอดอื่น ๆ เช่น โรคถุงลมโป่งพอง หญิงมีครรภ์ที่สูบบุหรี่มีโอกาสแท้งลูกมากขึ้น และเด็กที่คลอดออกมาอาจมีน้้าหนักน้อยกว่าปกติ การสูบบุหรี่ยังเพิ่มโอกาสของอาการหัวใจวาย และโรคมะเร็งประเภทอื่น ๆ อีกด้วย ผู้สูบบุหรี่อาจดูแก่กว่าปกติเนื่องจากควันบุหรี่จะเพิ่มรอยเหี่ยวย่นบนผิวหนัง เนื่องจากการสูบบุหรี่มีผลเพิ่มอัตราเมตาบอลิซึม ดังนั้นอาจส่งผลให้ผู้สูบมีน้้าหนักลดลง นิโคตินซึ่งเป็นสารกระตุ้นประสาท ในบุหรี่นั้นมีผลเป็นสารเสพติดด้วยและท้าให้เสียบุคลิกภาพ นอกจากจะท้าร้ายตัวเองแล้วยังท้าร้ายคนรอบข้างด้วยแม้กระทั่งคนที่เรารัก แล้วยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ท้าให้เกิดปัญหาที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ปัญหายาเสพติด การเสียค่าใช้จ่ายของรัฐในการรักษาพยาบาลโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่และสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติซึ่งเราทุกคนต้องตระหนักถึงโทษที่เกิด จากบุหรี่และ ต้องช่วยการแก้ไข และบุคคลที่จะเป็นกลไกส้าคัญที่จะร่วมแก้ไขปัญหาการสูบบุหรี่ก็คือ เยาวชน
จากข้อมูลของ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ระบุว่า ในปี พ.ศ.๒๕๔๔ มีวัยรุ่นไทยที่อายุต่้ากว่า ๑๙ ปี เสพติดหรี่แล้ว ๓๗๕,๙๐๐ คน และสูบเป็นครั้งคราว ๗๘,๐๐๐ คน ในแต่ละปีมีเยาวชนไทยเสพติดบุหรี่ใหม่ และกลายเป็นผู้ที่ต้องสูบบุหรี่เป็นประจ้า ๒๐๐,๐๐๐ ถึง ๓๐๐,๐๐๐ คน ทดแทนผู้ใหญ่ที่สูบบุหรี่ที่เสียชีวิตหรือเลิกสูบ ท้าให้จ้านวนผู้สูบบุหรี่ไทยคงที่อยู่ที่ ๑๑ ล้านคน ในยี่สิบปีที่ผ่านมา เยาวชนไทยที่เสพติดบุหรี่แล้ว โดยเฉลี่ยจะเสพติดบุหรี่ต่อไปเป็นเวลา ๒๓ ปี ทั้งๆ ที่กว่าร้อยละ ๗๐ ของผู้ใหญ่ที่เสพติดบุหรี่ต้องการที่จะเลิกสูบ แต่เลิกไม่ส้าเร็จเพราะอ้านาจเสพติดที่สูงมากๆ ของบุหรี่ จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่า เยาวชนเป็นวัยที่เสี่ยงต่อการติดบุหรี่ และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อยๆในแต่ละปี เมื่อสูบแล้วก็จะติดบุหรี่ไปจนตาย ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเลิก เพราะฉะนั้น เยาวชนทุกคนควรที่จะเรียนรู้และตระหนักถึงโทษของบุหรี่และช่วยกันแก้ไขโดยอาจจะเริ่มที่ตัวเองก่อน เช่น ศึกษาหาความรู้ถึงพิษภัยของบุหรี่ อาจจะในหนังสือ สื่ออินเตอร์เนต หรือถามครู อาจารย์ ตลอดจนผู้ที่มีความรู้ การ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ อาจจะเล่นกีฬา เช่น ฟุตบอล ปิงปอง ลีลาส วิ่ง ว่ายน้้า เป็นต้น เป็นการใช้เวลาว่างเป็นประโยชน์ แล้วยังได้สุขภาพร่างกายที่ดีและยังเป็นการคลายเครียด โดยที่ไม่ต้องพึ่งบุหรี่ การเล่นดนตรี การร้อง เล่น เต้นร้า นอกจากจะได้ใช้เวลาว่างให้ได้ประโยชน์แล้ว ยังเป็นการฝึก การแสดงออก และ ดนตรียังช่วยกล่อมเกลาจิตใจด้วย การท้ากิจกรรมด้าน ศิลปะ หัตถกรรม เช่น วาดรูป การปั้น ร้อยลูกปัด เป็นต้น เป็นการฝึกสมาธิ และสร้างคุณค่าแก่ตัวเองด้วย นอกจากนี้เยาวชน ควรรู้แก้ไขปัญหาอย่างมีเหตุผล ไม่พึ่งพาบุหรี่ รู้จักบทบาทและหน้าที่ของตนเอง ด้วยการตั้งใจศึกเล่าเรียน เชื่อฟังค้าสั่งสอนของพ่อแม่และครูบาอาจารย์และประพฤติแต่สิ่งที่ดีงาม การท้าจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส โดยน้าหลักธรรม
ทางศาสนามาเป็นแนวทางในการด้าเนินชีวิต ซึ่งนอกจากช่วยเหลือตนเองแล้วยังสามารถช่วยเหลือเพื่อน และ ผู้อื่นในสังคมโดยการร่วมรณรงค์เพื่อการลด ละ เลิก บุหรี่ด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆเช่น กิจกรรมที่องค์กรหรือหน่วยงานต่างๆจัดขึ้นเนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม ของทุกปีซึ่งถ้าทุกคนช่วยกันโดยมีเยาวชนเป็นส่วนร่วม บุหรี่มวนสุดท้ายก็คงต้องหมดไปจากโลก
การสูบบุหรี่ต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพผู้สูบเองและคนรอบข้างแล้วยังส่งผลกระทบต่อสังคมท้าให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เราทุกคนในสังคมต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะวัยรุ่นเป็นวัยที่อยากรู้ อยากลอง มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดบุหรี่ เพราะฉะนั้นเยาวชนก็ควรเรียนรู้และตระหนักถึงโทษของบุหรี่ และไม่เข้าไปตกเป็นทาสของบุหรี่ โดยการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในด้าน ดนตรี กีฬา หรือ ศิลปะ นอกจากนี้แล้วเยาวชน ยังสามารถช่วยเหลือเพื่อน ช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นภัยบุหรี่ได้ด้วยการใช้พลังที่มีอยู่ในตัวเองร่วมรณรงค์ในกิจกรรมต่างๆ หรือในโอกาสต่างๆเพื่อการลด ละ เลิก บุหรี่ให้หมดไปจากสังคม สมดังค้ากล่าวที่ว่า “พลังเยาวชน ร่วมรณรงค์ลดบุหรี่”
นายไพโรจน์ ศรีราทา
ที่อยู่ 99/11 ม.9 ต. ท่าโพธิ์
อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000
ระดับการศึกษา ปริญญาตรี ปี 4
สถานศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร
เบอร์โทรศัพท์ 084-4883856
อีเมลล์ rotdanai1908@hotmail.com